ลักษณะภูมิประเทศ
อำเภอกระบุรี มีพื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นป่าและภูเขาสลับซับซ้อน มีที่ราบบริเวณแม่น้ำกระบุรีเพียงเล็กน้อยเฉพาะทิศตะวันตกตอนใต้ บริเวณแม่น้ำกระบุรีเป็นป่าชายเลนมีพันธุ์ไม้น้ำเค็มขึ้นอยู่ทั่วไป
อากาศอบอุ่นสบายไม่หนาวไม่ร้อนมากนักเหมือนเมืองชายฝั่งทะเลทั่วไป มีฝนตกชุก เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ปีหนึ่งจะมีฝนตกประมาณ 6 เดือน ซึ่งเหมาะแก่การทำสวนและปลูกผลไม้
อำเภอกระบุรี มีเนื้อที่ 783.01 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 22.4 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด เป็นอำเภอชายแดน มีอาณาเขตติดต่ออำเภอเกาะสอง จังหวัดมะริด ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมแห่งสหภาพเมียนม่าร์
โดยมีแม่น้ำกระบุรีเป็นเส้นกั้นอาณาเขตระหว่างประเทศทั้งสองความยาวประมาณ 80.1 กิโลเมตร จำนวนตำบลและหมู่บ้านที่ตั้งตามแนวบริเวณชายแดนครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 7 ตำบล รวม 31 หมู่บ้าน
ที่ตั้งที่ว่าการอำเภอกระบุรี ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลน้ำจืดน้อย ห่างจากจังหวัดระนอง 62 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัดชุมพร 58 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับ ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมแห่งสหภาพเมียนมาร์
และอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร
ทิศใต้ ติดต่อกับ อำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ อำเภอเมืองและอำเภอสวี จังหวัดชุมพร
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ อำเภอหมารางจังหวัดเกาะสองประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมแห่งสหภาพเมียนมาร์
มีจุดที่น่าสนใจทางภูมิศาสตร์ คือ คอคอดกระ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่แคบที่สุดของแหลมมาลายู ตั้งอยู่ที่
หมู่ที่ 2 ตำบลมะมุ อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง
ลักษณะภูมิอากาศ
เนื่องจากอำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของภาคใต้ จึงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้อย่างเต็มที่ ทำให้มีฝนตกชุกตลอดปี จนได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มี “ฝนแปดแดดสี่” ในปี พ.ศ.2560 จังหวัดระนอง มีฝนตก จำนวน 198 วัน ปริมาณน้ำฝนวัดได้ 4,924.9 มิลลิเมตร มีอุณหภูมิต่ำสุด 20.9 องศาเซลเซียส ในเดือนธันวาคม และอุณหภูมิสูงสุด 38.4 องศาเซลเซียส ในเดือนพฤษภาคม อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง แบ่งฤดูกาลตามลักษณะลมฟ้าอากาศของประเทศออกเป็น 3 ฤดู คือ
1) ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนพฤษภาคม ระยะนี้เป็นช่วงว่างของฤดูมรสุม จะมีลมจากทิศตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้อากาศร้อนทั่วไป อากาศจะร้อนที่สุดในเดือนเมษายน แต่ไม่ร้อนมากนัก เนื่องจากภูมิประเทศเป็นคาบสมุทรอยู่ใกล้ทะเล กระแสลมและไอน้ำจากทะเล
ทำให้อากาศคลายความร้อนลงไปมาก
2) ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนตุลาคม จะมีลมมรสุมตะวันตก เฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย และร่องความกดอากาศต่ำ จะพาดผ่านภาคใต้เป็นระยะๆอีกด้วย จึงทำให้มี ฝนตกมากตลอดฤดู และเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม จะมีฝนตกชุกที่สุดในรอบปี
3) ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม ถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ในระยะนี้จะมีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเย็นและแห้งจากประเทศจีนพัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้อุณหภูมิลงลด และมีอากาศหนาวเย็น แต่เนื่องจากจังหวัดระนองอยู่ใกล้ทะเล อุณหภูมิจึงลดลงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว อากาศไม่สู้จะหนาวเย็นมากนัก และตามชายฝั่งจะมีฝนตกทั่วไป แต่มีปริมาณไม่มาก